ถ้าผมพุดคำว่า “เทคนิคการตรวจสอบปริมาณผลการค้นหาของคีย์เวิร์ด” คุณอาจคิดไปไกลว่านี่ต้องเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อน สงสัยต้องอาศัยเครื่องมืออะไรยากๆ มาช่วยตรวจสอบวิเคราะห์ หรือต้องเข้าเว็บไซต์นั้นเว็บไซต์นี้เพื่อตรวจสอบตัวเลขดังกล่าว แต่จริงๆ แล้วการตรวจสอบปริมาณผลการค้นหาของคีย์เวิร์ดน่ะง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก
ทำไมน่ะเหรอครับ ?
ก็เพราะเวลาที่เราเสิร์ชผ่านเสิร์ชเอนจิ้น ทั้ง Google , Yahoo หรือ Bing เราจะเห็นตัวเลขแสดงปริมาณผลการค้นหาหรือปริมาณคู่แข่งของเราแสดงอยู่ทนโท่ เพียงแค่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้สนใจสังเกต เพราะมั่วแต่ให้ความสำคัญกับรายการผลการค้นหาที่แสดงขึ้นมาเสียมากกว่า
คราวนี้ทุกครั้งที่เราค้นหาผ่าน Google แสดงปริมาณผลการค้นหาไว้ด้านบนของเว็บเพจหน้าถัดไปจากช่อง Search ลงมาด้วย เช่น มีข้อความระบุไว้ว่า About 996,000,000 Results ก็หมายถึงว่ามีการค้นหาที่ตรงกับคีย์เวิร์ดนั้นๆ ประมาณ 996,000,000 รายการ
หรือถ้าคุณค้นหาผ่าน Yahoo คุณก็จะเห็นตัวเลขแสดงปริมาณผลการค้นหาเช่นเดียวกัน ตัวเลขนี้แสดงอยู่ในช่องถัดไปจาก Search ลงมานิดหน่อยเช่นกัน อย่างถ้าเห็นตัวเลข 294,000,000 Result แสดงว่า Yahoo พลผลการค้นหาที่ตรงกับคีย์เวิร์ดของเราเป็นจำนวน 294,000,000 รายการไงล่ะ
เพราะฉะนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดช่วยเช็คได้ว่า คีย์เวิร์ดนั้นมีผลการค้นหาเป็นจำนวนเท่าไหร่ ก็คือการเสิร์ชด้วยคีย์เวิร์ดนั้นผ่านเสิร์ชเอนจิ้น แล้วดูตัวเลขของการค้นหาที่เสิร์ชเอนจิ้นบอกกับเรา ยิ่งปริมาณผลการค้นหามีมากก็แสดงว่าเรามีคู่แข่งเยอะมากๆๆๆๆ การนำคีย์เวิร์ดนี้มาใช้ทำ SEO คงไม่ใช่ความคิดที่ดีสักเท่าไหร่ แต่ถ้าคีย์เวิร์ดนั้นๆ มีปริมาณผลการค้นหาน้อยลงมาหน่อย แบบนี้จะเวิร์กกว่าถ้าเราหยิบมาทำ SEO เพราะมันหมายความว่าเรามีคู่แข่งไม่มากนักครับ
เทคนิควิเคราะห์คู่แข่งแย่ง Ranking
เมื่อเราใช้เทคนิคต่างๆ ในการหาและคัดเลือกคีย์เวิร์ดจนได้คีย์เวิร์ดที่หมายตาไว้แล้ว ก่อนจะตัดสินใจใช้คีย์เวิร์ดในการทำ SEO ผมแนะนำเป้นอย่างยิ่งว่า คุณต้องไม่ลืมทำอะไรอีกอย่างหนึ่งนั่นคือ การวิเคราะห์คุ๋แข่งที่ใช้คีย์เวิร์ดเดียวกัน คุ่แข่งของคุณก็คือเว็บไซต์ที่มีแรงกิ้งในลำดับต้นๆ หรือมีแรงกิ้งสูงกว่าคุณทั้งหลายแหล่นี่แหละ
คิดจะทำ SEO ให้สำเร็จ คุณก็ต้องเอาชนะคู่แข่งที่มีแรงกิ้งดีกว่าคุณให้ได้
อยากเอาชนะคู่แข่งให้ได้ เราต้องรู้เทคนิคในการวิเคราะห์คู่แข่งเสียก่อน เทคนิคในการวิเคราะห์คู่แข่งนี้ถ้าจะว่าไปแล้วก็มีอยู่มากมาย แต่ในที่นี้ผมขอพุดถึงเทคนิคหลัก ๆ ก็แล้วกันนะครับ เพราะถ้าขืนพูดกันแบบละเอียดมันจะกินพื้นที่หน้าหนังสือมากเกินไป ลองดูกันครับว่า มีเทคนิคในการวิเคราะห์คู่แข่งอะไรบ้างที่ผมหยิบเอามาแนะนำ
-
วิเคราะห์ Traffic ของคู่แข่ง
เว็บไซต์ไหนมีทราฟฟิกเยอะๆ ก็หมายความว่าเป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมสูง และก็หมายความต่อไปว่านี่เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของเรา หากเราพบว่าเว็บไซต์ที่เล่นคีย์เวิร์ดเดียวกับเราล้วนแล้วแต่มีทราฟฟิกสูงลิบทั้งสิ้น เราอาจต้องทบทวนว่าควรหลีกเลี่ยงไปใช้คีย์เวิร์ดอื่นดีหรือเปล่า
มีหลายๆ เว็บไซต์ที่ให้บริการตรวจสอบทราฟฟิกของเว็บไซต์ทั่วไป อย่างเว็บไซต์ www.compete.com ก็เป็นเว็บที่ใช้งานง่าย ไม่มีข้อมูลอะไรต่อมิอะไรจนรกรุงรัง สามารถรายงาน ทราฟฟิกของเว็บไซต์เป้าหมายได้เป็นรายเดือน แต่ถ้าดูทราฟฟิกของเว็บไซต์ไทยเข้าไปดูที่ Truehits.net
-
วิเคราะห์อายุของคู่แข่ง
อายุของเว็บไซต์เป็นปัจจัยหนึ่งครับที่เสิร์ชเอนจิ้นใช้ในการจัดแรงกิ้ง เว็บไซต์ไหนที่มีอายุเก่าแก่และได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมายาวนาน ก็มีแนวโน้มที่จะมีแรงกิ้งสูงๆ ส่วนใหญ่เว็บไซต์สร้างใหม่ทั้งหลาย คงต้องพยายามหน่อยหากคิดจะเอาชนะเว็บไซต์ที่มีอายุมากกว่าได้
โดยหลักการแล้ว เสิร์ชเอนจิ้นไม่ได้วัดอายุของเว็บไซต์โดยดูที่โดเมนเนมหรอกครับ แต่จะนับว่าที่เสิร์ชเอนจิ้นเข้ามาเก็บข้อมูลในเว็บไซต์นั้นต่างหาก การตรวจสอบอายุของโดเมนเนมจึงเป็นเทคนิคที่ง่ายที่สุด
เว็บไซต์ที่ช่วยตรวจสอบอายุโดเมนเนมให้เราได้มีเยอะมากครับทั้งของไทยและของเทศแต่ที่นิยมใช้กันก็เช่น…
http://www.whosi.net
http://www.whois.com
http://who.godaddy.com
http://www.checkdomain.com
http://poblicdomainregistry.com/whois/
เว็บไซต์ที่ใช้บริการตรวจสอบโดเมนเนมเหล่านี้ จะเก็บรายละเอียดของทุกโดเมนเนมในโลกไว้ทั้งหมด เราจึงเข้าไปดูข้อมูลของโดเมนเนมไหนๆ ก็ได้ตามต้องการ แล้วไม่ใช่เข้าไปดุได้แค่อายุของโดเมนเนมเท่านั้นนะครับ แต่ยังดูรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ด้วย เช่น ใครเป็นคนจดทะเบียนโดเมนเนมนี้ , วันที่จด , วันหมดอายุ หรือที่อยู่ของผู้จดโดเมนเนมเป็นต้น
-
วิเคราะห์ Backlink ของคู่แข่ง
นักทำ SEO จะรู้กันดีว่า ตัวแปรสำคัญอย่างหนึ่งที่มีผลต่อแรงกิ้งของแต่ละเว็บไซต์คือ แบ็กลิงค์ หรือลิงค์ในเว็บไซต์อื่นๆ ที่เชื่อมโยงกลับมายังเว็บไซต์นั้น เว็บไซต์ไหนมีแบ็กลิงค์เยอะๆ ก็จะดูน่าเชื่อถือในสายตาของเสิร์ชเอนจิ้น เพราะเสิร์ชเอนจิ้นมองว่าเว็บไซต์นั้นมีคุณภาพ ไม่งั้นเว็บไซต์อื่นๆ คงไม่อ้างอิงถึงกันเยอะ
อยากรู้กำลังของคู่ขาง ปริมาณแบ็กลิงค์เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าจะลองเช็คดู ถ้าพบว่าคู่แข่งตัวฉกาจที่ใช้คีย์เวิร์ดตัวเดียวกับเราล้วนมีแบ้กลิงค์มากมายมหาศาล เราก็ต้องกลับมาพิจารณาว่าถ้าคิดสู้ต่อจะพอสู้ไหวหรือเปล่า หรือจะถอยกลับไปแล้วลองเลือกคีย์เวิร์ดใหม่ดี
แต่ถ้าคุณอยากได้ข้อมูลที่ดูง่ายและละเอียดชัดเจนขึ้น ก็ให้ลองเข้าไปใช้บริการเว็บไซต์ที่ให้บริการเช็คแบ็กลิงค์ทั้งหลาย เช่น…
http://ww.domail-pop.com
http://www.opensiteexplorer.org
http://www.backlinkwatch.com
http://www.linkdiagnosis.com
-
วิเคราะห์ปัจจัยเสริมอื่นๆ
นอกจากเรื่องทราฟฟิก เรื่องอายุของเว็บไซต์ และเรื่องแบ็กลิงค์ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักๆที่ทำการวิเคราะห์แล้ว ถ้าอยาก “รู้เขารู้เรา” ให้มากขึ้น เราก็ควรสำรวจดูปัจจัยเสริมหรือปัจจัยย่อยอื่นๆ ประกอบกันไปด้วย เราจะได้มองเห็นภาพชัดเจนว่า คู่แข่งของเราน่ากลัวแค่ไหน มีความแข็งแกร่งขนาดไหน เราพอจะเอานะไหวหรือเปล่า
ปัจจัยเสริมตัวแรกที่ผมอยากให้พิจารณาคือ ความน่าเชื่อถือของคู่แข่ง เราต้องวิเคราะห์ดูด้วยว่า คู่แข่งของเราทั้งหลายมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน หากเจ้าของเว็บไซต์เหล่านั้นเป็นบุคคลธรรมดาเหมือนๆกับเรา การจะทำ SEO ให้ชนะก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินความสามารถ แต่หากเจ้าของเว็บไซต์เหล่านั้นเป็นคนดังที่มีคนสนใจเป็นจำนวนมาก หรือเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือ เราก็คงเอาชนะได้ยากพอๆ กับจักรยานที่หวังจะปั่นแซงรถแข่ง
จำนวนเว็บเพจของคู่แข่งติดอินเด็กซ์ก็ถือว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เว็บไซต์ไหนที่มีเว็บเพจติดอินเด็กซ์ของเสิร์ชเอนจิ้นมากๆ แสดงว่าเป็นเว็บไซต์ขนาดใหญ่ มีเนื้อหาเยอะอันดับแรงกิ้งก็มีแนวโน้มจะสูงกว่าเว็บไซต์ที่ติดอินเด็กซ์น้อย มีเนื้อหาน้อย
ปัจจัยเสริมอื่นๆ ที่มีผลต่อการทำ SEO ให้ชนะคู่แข่งยังมีอีกหลายปัจจัย เช่น คุณภาพของเนื้อหาในเว็บไซต์คู่แข่ง , จำนวนคีย์เวิร์ดในเว็บคู่แข่ง , รูปแบบการวางคีย์เวิร์ดในเว็บคู่แข่ง , โครงสร้างของเว็บไซต์คู่แข่ง หรือ ความเร็วในการโหลดน่าเว็บของคู่แข่ง เป็นต้น แต่ปัจจัยพวกนี้เป็นแค่ปัจจัยปลีกย่อย จึงไม่ขอพูดถึงในที่นี้ครับ