Home » ปัจจัยที่มีผลต่อการทำ SEO

ปัจจัยที่มีผลต่อการทำ SEO

คุณเคยดูการแข่งขันวิ่งซึ่งเป็นการแข่งขันกรีฑาประเภทหนึ่งหรือเปล่าครับ ผมว่าคุณน่าจะเคยดุกันทั้งนั้น ถึงไม่เคยไปชมติดขอบสนามจริงๆ ก็น่าจะชมการถ่ายทอดผ่านทีวี อาจเป็นกีฬาซีเกมส์ เอเซียนเกมส์ โอลิมปิก หรือไม่ก็กีฬาสีของโรงเรียน ในการแข่งขันวิ่งในระยะสั้นระยะยาวทุกครั้งเราจะเห็นภาพคล้ายๆกัน

ลองคิดดูดีๆ การแข่งขันวิ่งนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการแข่งขันทำ SEO ว่ามั๊ยครับ  เว็บไซต์ที่ทำ SEO แล้วมีแรงกิ้งสูงที่สุด ก็เหมือนคนที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป้นทีหนึ่ง คนที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับลองลงมาก็เหมือนเว็บไซต์ที่มีแรงกิ้งรองๆ ลงมา การจะทำ SEO ให้เว็บไซต์มีแรงกิ้งดีๆเป็นอันดับต้นๆ ได้มีหลายๆปัจจัยมาเกี่ยวข้อง  เหมือนนักวิ่งที่ต้องอาศัยหลายปัจจัย

การทำ SEO ก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลยมีทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการทำ SEO ของเรา ปัจจัยภายในเว็บปัจจัยที่อยู่ในเว็บไซต์ของเราเอง เราควบคุมและปรับแต่งได้ ส่วนปัจจัยภายนอกคือปัจจัยที่อยู่นอกเว็บไซต์เราบางอย่างเราพอควบคุมได้ แต่บางอย่างก็อยู่นอกเหนือการควบคุม

ลงมือทำ SEO ให้สุดแรงเกิด

เรารู้อยู่แล้วว่าคีย์เวิร์ดนับเป็นอาวุธสำคัญที่จะนำมาใช้ในการทำ SEO แล้วเราก็ได้ศึกษาเทคนิคการคิดไอเดียคีย์เวิร์ด แบะการวิเคราะห์เพื่อเลือกคีย์เวิร์ดกันอย่างขนานใหญ่บานตะไทไปแล้วในบทที่ 3 และบทที่ 4 พอมาถึงบทที่ 7 นี่แหละครับเราจะได้รู้กันเสียทีว่า จะนำคีย์เวิร์ดเด็ดๆที่เตรียมไว้มาใช้งานกันอย่างไร รวมถึงเราจะได้รู้ว่าเรามีวิธีการปรับแต่งเว็บไซต์ของตัวเองเพื่อผลด้าน SEO ได้ดียังไงบ้าง ซึ่งทั้งหมดนี้มันคือการปรับแต่ง On-Page Factors นั่นเอง

ปัญหาของกราเขียนเนื้อหาบทนี้อยู่ตรงที่ว่า คุณผู้อ่านที่น่ารักของผมคงมีวิธีการสร้างเว็บไซต์ที่ไม่เหมือนกัน บางคนเขียนขึ้นมาเองทุกดุ้น บางคนใช้ CMS ตัวนั้นตัวนี้มาช่วย หรือบางคนก็สร้างบล็อกโดยพึ่งบริการบล็อกฟรีต่างๆ เมื่อเป็นแบบนี้ผมคงไม่สามารถอธิบายโดยอ้างอิงกับวิธีสร้างเว็บไซต์วิธีใดวิธีหนึ่งได้ จึงขอเลือกวิธีกลางๆ ไว้ก่อน คือจะเน้นพูดถึงหลักการและวิธีใส่คำสั่งภาษา HTML ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเทคนิคเหล่านี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หมดไม่ว่าคุณจะสร้างเว็บไซต์ด้วยวิธีไหนก็ตาม

ใส่ Keyword ใน URL ของเว็บเพจ

เมื่อเราเปิดเว็บเพจขึ้นมาสักหน้า สิ่งแรกๆที่เราจะเห็นได้แก่ URL ของเว็บเพจนั้นๆ ตามปกติแล้วถ้าเป็น URL ของเว็บไซต์ มันก็จะจบด้วย .com หรือดอตอื่นๆ ส่วน URL ของเว็บเพจจะยาวกว่านั้น และมักมีเครื่องหมาย / คั่นอยู่ด้วย ตัวอย่างเช่น http://pantip.com/tech/software/ เป็นต้น

คนที่เคยลองสร้างด้วยมือของตัวเองคงนึกภาพออกไม่ยากว่า คำหรือสีที่อยู่ด้านหลังหรืออยู่ระหว่างเครื่องหมาย / นี้ จริงๆแล้วมันคือชื่อโฟลเดอร์ที่ใช้จัดเก็บไฟล์ของเว็บเพจนั้นนั่นเอง สมมุติว่าผมสร้างเว็บไซต์หนึ่งขึ้นมาเพื่อเขียนบทความอธิบายคำว่า SEO โดยผมบันทึกเว็บเพจนี้ในชื่อ index.htm ตามรูปแบบมาตรฐาน จากนั้นผมก็เข้าไปที่ Web Root ซึ่งก็คือโฟลเดอร์ที่ใช้จัดเก็บข้อมูลเว็บไซต์ทั้งหมด แล้วสร้างโฟลเดอร์ชื่อ article ขึ้นมา และสุดท้ายผมคลิกเข้าไปในโฟลเดอร์ seo-technical เพื่อเข้าไปสร้างโฟลเดอร์ย่อยลำดับที่ 3 อีกชั้น โดยตั้งชื่อว่า seo-beginning

คงพอเห็นแล้ว่าการกำหนดโฟลเดอร์มีผลโดยตรงต่อรูปแบบ URL ของเว็บเพจ เพราะฉะนั้นเวลาจะสร้างโฟลเดอร์ขึ้นมาเพื่อใช้จัดเก็บไฟล์งานของเว็บเพจทั้งหลาย เราต้องตั้งชื่อให้เป็นชื่อที่อ่านรู้เรื่อง ไม่ใช้ตั้งเป็นตัวเลขหรืออะไรที่อ่านไม่เป็นคำ และถ้าจะให้ดีเราควรนำคีย์เวิร์ดที่เตรียมไว้มาตั้งเป็นชื่อโฟลเดอร์

การกำหนด URL ของเว็บเพจให้เป็นคำที่อ่านรู้เรื่องและมีคีย์เวิร์ดรวมอยู่ด้วย ถือเป็นหลักการปรับแต่ง URL ให้เข้ากับ SEF ซึ่งผมเคยพูดถึงไปแล้วในบทก่อนหน้านี้เห็นล้าคาดเดาได้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับอะไร เห็นแล้วจนปัญญาจะเดาว่าปลายทางของ URL นั้นนำเสนอข้อมูลเรื่องอะไรกันแน่

สำหรับคนทีไม่ได้สร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเอง ไม่ได้สร้างโฟลเดอร์เพื่อแบ่งแยกหมวดหมูของเว็บเพจเอง แต่สร้างเว็บไซต์โดยอาศัยโปรแกรมสำเร็จรูปที่เรียกว่า CMS ต่างๆ คุณก็ต้องลองเทียบคู่ดูว่า คุณจะปรับแต่งเว็บไซต์อย่างไรให้ถูกหลัก SEF ที่ว่านี้

อัพเดท